อาการไมเกรนกลับมาเยือนอีกแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีเลย
วันนี้ตื่นมาตอนเช้าไมเกรนจับหัวค่อนข้างหนัก ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ค่อยดีสำหรับคนเป็นไมเกรนแล้วไม่ชอบกินยาอย่างข้าพเจ้า เพราะกว่าจะหายต้องอาศัยการนอนอีกครั้งนึง ตอนเที่ยงเราเลยตัดสินใจที่จะนอนอีกรอบ...
นอนหลับสบายยยยยไปสี่ชั่วโมง ตื่นมาอีกทีตอนสี่โมงเย็นโดยมีริชชี่มานอนข้างๆ เราเลยเอื้อมมือไปลืมหัวลูบตัวมันเล่น ทันใดนั้นเอง... อยู่ดีๆก็มีเสียงเพลงนึงดังอยู่ในหู (ย้ำว่าดังอยู่ในหู ไม่ใช่เสียงจากรอบข้างแต่อย่างใด) เป็นเพลงผู้ชายร้องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำนองไม่เคยได้ยินมาก่อน จำเนื้อเพลงและทำนองไม่ได้ รู้แต่ตอนฟังตอนนั้นมันเป็นเพลงที่เพราะมาก ทั้งเนื้อร้องและทำนองมันสวยงามจริงๆ ปัญหาเดียวคือ... เนื้อเพลงมันเกียวกับความตาย และ...เหมือนจะเกียวกับเราด้วย ด้วยความตกใจเราจึงพยายามจะขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงแต่... เราก็พบว่าตัวเองขยับไม่ได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่วินาทีเรายังขยับตัวไปลูบหัวริชชี่อยู่เลย แต่ตอนนี้ทั้งร่างกายขยับไม่ได้ จะมีก็แต่มือที่ยังลูบหัวริชชี่ได้อยู่ ตอนแรกแอบกลัวนะแต่สุดท้ายก็รู้ตัวว่าทำอะไรไม่ได้ก็เลยหยุดนิ่งไปเพราะอย่างน้อยก็ยังมีริชชี่อยู่ข้างๆให้อุ่นใจ แล้วตอนนั้นก็รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนไปวิ่งรอบหมู่บ้านมางั้นแหละ บทเพลงก็ดำเนินไปอีกแป๊บนึงแล้วก็หยุด ประมาณ 2-3 นาทีให้หลังเราก็ขยับตัวได้และพบว่าตัวเองเหงื่อโชกและเหนื่อยมาก
ทั้งหมดที่เล่ามานี้เราอยู่ในสภาวะ "ตื่นสมบูรณ์" รับรู้ทุกอย่าง มีสติครบถ้วน ดังนั้นตัดทฤษฎีครึ่งหลับครึ่งตื่นไปได้ และก็ตัดทฤษฎีสติตื่นแล้วแต่ร่างกายยังไม่ตื่นได้เช่นกัน เพราะเราขยับตัวไปแล้วถึงค่อยเป็นอัมพาตชั่วคราว ก็ถือเป็นครั้งที่สามแล้วมั้งที่เจอแบบนี้ ครั้งแรกตอนเด็กๆที่ได้ยินเสียงเหมือนแม่มดหัวเราะทั้งๆที่นอนตื่นอยู่ ครั้งที่สองตอนโตมาหน่อยได้ยินเสียงเพลงเกี่ยวกับความตายเช่นกัน แต่อันนั้นผู้หญิงร้อง
แต่ยังไงก็ตาม หลังจากตื่นมาแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากไมเกรนที่ไม่หาย ฮ่วย -_- ตอนนี้ก็หนักขึ้นตามลำดับ เมื่อชั่วโมงที่แล้วก็อ้วกไป ส่วนตอนที่เขียน Blog อยู่นี้อาการแย่พอที่จะไปนอนให้น้ำเกลือโรงบาลเลย แต่ไม่ต้องห่วง ไม่ตายหรอกๆ ยังไงพรุ่งนี้ถ้าไม่หายก็คงจะโดนหามไปอยู่แล้วแหละ แหะๆ
จบ!!